อาหาร

กินน้ำอัดลมมากๆ เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง?

ควบคุมจำนวนน้ำตาลยังไงให้ไม่เสี่ยงเป็นโรค

ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) อาหาร เปิดผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัย เพราะเหตุใดคนประเทศไทยกินน้ำอัดลม” จากกลุ่มทดลอง ปริมาณทั้งปวง 500 แบบอย่าง ระหว่างวันที่ 4-11 พฤษภาคม ก่อนหน้าที่ผ่านมา พบว่าสามัญชน จำนวนมากถึง 97.4% ถูกใจกินน้ำอัดลมแล้วก็พบว่าผู้ชายถูกใจกินน้ำอัดลมมากยิ่งกว่าผู้หญิง ในช่วงเวลาที่ช่วงอายุ 15-24 ปี กินน้ำอัดลมเยอะที่สุด ด้วยเหตุผลเพื่อคลายร้อน ซึ่งวันนี้ Tonkit360 มีเกร็ดความรู้จาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มาฝากกันว่าการกินน้ำอัดลมในจำนวนที่มาเหลือเกิน เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง

โรคอ้วน

เป็นที่รู้กันว่า การบริโภคเครื่องดื่มซึ่งมีน้ำตาลสูง แม้กระนั้นให้สารอาหาร รวมทั้งความรู้สึกอิ่มต่ำอย่างน้ำอัดลม ไม่ใช่การกระทำที่ดีต่อร่างกายน้ำหนัก การบริโภคเครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในจำนวนสูงนั้น ไม่มีผลดีต่อร่างกาย ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ข้อไม่สบายใจโดยไม่มีหลักฐาน แม้กระนั้นมีการเก็บรวบรวมงานศึกษาค้นคว้าวิจัยรวมทั้งการทดสอบต่างๆกว่า 30 งาน พบว่า การกินน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลในจำนวนมาก มีความข้องเกี่ยวกับน้ำหนักที่มากขึ้น รวมทั้งการเสี่ยงต่อโรคอ้วน

เบาหวาน ภาวะความดันโลหิตสูง

เว้นเสียแต่น้ำหนักที่มากขึ้น รวมทั้งสภาวะอ้วนที่บางครั้งก็อาจจะสอบถามหา ข้อมูลงานศึกษาเรียนรู้ต่างๆที่มีผู้เข้าร่วมไม่น้อยเลยทีเดียว ยังชี้ว่าการกินน้ำอัดลมผสมน้ำตาลในจำนวนสูง ยังบางทีอาจส่งผลให้เกิดกรุ๊ปอาการอ้วนอ้วน แล้วก็เบาหวานจำพวกที่ ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษาค้นพบหลักฐานที่ผู้กินน้ำอัดลมทุกคน ควรจะใส่ใจแล้วก็จำกัดการดื่มให้ต่ำลง เพื่อลดการเสี่ยงต่อภาวการณ์อ้วนอ้วน ซึ่งนำมาซึ่งการทำให้หรูหราความดันเลือด แล้วก็ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูง กำเนิดไขมันสะสมรอบเอวมากมาย รวมทั้งหรูหราไขมันคอเลสเตอรอล หรือไตรกลีเซอไรด์มากขึ้น เสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคเบาหวาน แล้วก็โรคเส้นเลือดในสมองตามมา

โรคกระดูกพรุน ฟันผุ

เป็นที่สงสัยกันว่าการกินน้ำอัดลม จะทำให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกต่ำลง หรือกำเนิดโรคกระดูกพรุนอย่างที่กล่าวกันไหม ข้อนี้มีการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์บางงาน พบว่าการกินน้ำอัดลมที่มีกรดฟอสฟอริก (Phosphoric) เป็นองค์ประกอบมากมายบางทีอาจเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ (Hypocalcemia) ได้ อีกทั้งการกินน้ำอัดลมยังมีความข้องเกี่ยวกับ การเสี่ยงต่อการแตกของกระดูกแขนท่อนปลายอีกด้วย

ส่วนฟันผุก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า ของกินที่มีน้ำตาลสูงย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อปัญหาด้านสุขภาพฟัน เพราะน้ำตาลที่หลงเหลือจะแปลงเป็นของกินของแบคทีเรียด้านในปาก กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการจับกุมของแบคทีเรียกับน้ำตาล เปลี่ยนเป็นรอยเปื้อนหินปูนสุดท้าย ไม่เว้นแม้กระทั้งเครื่องดื่มต่างๆที่มีรสหวานรวมทั้งน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลสูง แม้กระนั้นที่น่าตกใจกว่านั้นก็เป็น แม้กระทั้งน้ำอัดลมที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ก็ยังบางทีอาจเป็นต้นเหตุของอาการฟันผุได้เช่นเดียวกัน

โรคหัวใจ

อีกหนึ่งปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการกินน้ำอัดลม โดยผลที่ได้รับจากการวิจัยพบว่า การบริโภคน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลบ่อยๆ มีความเชื่อโยงกับช่องทางเสี่ยงโรคเส้นโลหิตหัวใจที่สูงขึ้น ทั้งนำไปสู่ความเคลื่อนไหวของระดับไขมัน สาเหตุการเกิดการอักเสบ แล้วก็ฮอร์โมนเลปตำหนิน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความอิ่มในทางที่ไม่เป็นผลดีสำหรับสุขภาพอีกด้วย ส่วนเครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้น ไม่พบว่ามีความเชื่อโยงกับโรคเส้นเลือดหัวใจหรือมีผลต่อทางชีวภาพต่อสุขภาพอะไร

ภาวการณ์โรคสมองเสื่อม โรคเส้นเลือดสมอง

มีการเอ๋ยถึงอันตราย จากการกินน้ำอัดลมจำพวกไม่มีน้ำตาล หรือใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล กับการเกิดโรคเส้นเลือดสมอง แล้วก็ภาวการณ์โรคสมองเสื่อมอย่างล้นหลาม ซึ่งมีที่มาจากงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่ง ที่ติดตามความประพฤติปฏิบัติการกินน้ำอัดลมของผู้เข้าร่วม ผลเปิดเผยว่าคนที่กินน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล เสี่ยงต่อโรคดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมากยิ่งกว่า คนที่ไม่กินน้ำอัดลมจำพวกไม่มีน้ำตาลถึง เท่า ซึ่งการศึกษาค้นคว้าวิจัยในครั้งนี้ก็เป็นที่ยอมรับ แล้วก็ได้รับการตระหนักจากสโมสรโรคหัวใจที่อเมริกา

อาหาร

ควบคุมจำนวนน้ำตาลยังไงให้ไม่เสี่ยงเป็นโรค

เริ่มรับประทานหวานให้ลดน้อยลง สั่งหวานน้อยบ่อยๆให้เป็นนิสัย เป็นการสร้างความคุ้นเคยสำหรับในการรู้รสของตัวเอง และก็เปลี่ยนเป็นคนไม่ติดหวาน

ลดการเติมน้ำตาลทุกหนอีกทั้งใน ของคาว ของหวาน กระทั่งการปรุงรสกวยเตี๋ยว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มน้ำตาล หรือเครื่องปรุงรสอื่นเพิ่มเติมอีก หรือถ้าหากมื้อใดที่รู้ดีว่ารับประทานอาหารที่มีน้ำตาลไปแล้ว ก็ควรจะลดในมื้อถัดไป

อุตสาหะควบคุมการกินน้ำตาลทุกๆวันให้ ไม่เกิน ช้อนชาจะดีมากกว่า และก็ทานอาหารธรรมชาติเป็นหลัก อย่างเช่น ถ้าเกิดรู้สึกต้องการรับประทานอาหารหวาน ให้รับประทานผลไม้ชดเชย หรือแม้รู้สึกต้องการน้ำหวานทดลองเลือกเป็น น้ำผลไม้สดตอบแทน

กินน้ำสะอาดจะดีเยี่ยมที่สุด ไม่เสี่ยงต่อโรคต่างๆด้วย

น้ำหวานแต่ละประเภทจะต้องใช้เวลาเผาผลาญกี่นาที

น้ำอัดลมแบบเป็นน้ำดำกระป๋องจำนวน 325 มล. มีน้ำตาลโดยประมาณ 31 กรัม หรือ ช้อนชา จะต้องใช้เวลาเผาผลาญด้วยการเดินขั้นต่ำ 18 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือ วิ่งใส่ขั้นต่ำ 12 นาที

น้ำอัดลมน้ำสีแล้วก็น้ำใสกระป๋องจำนวน 325 มล. มีน้ำตาลราว 39 กรัม หรือ 10 ช้อนชา จะต้องใช้เวลาเผาผลาญด้วยการเดินขั้นต่ำ 22 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือวิ่งใส่อย่างต่ำ 16 นาที

เครื่องดื่มชาเขียวน้ำผึ้งมะนาวขวดจำนวน 420 มล. มีน้ำตาลราว 49 กรัมหรือ 12 ช้อนชา จำเป็นต้องใช้เวลา เผาผลาญด้วยการเดินอย่างต่ำ 27 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือวิ่งใส่อย่างต่ำ 19 นาที

เครื่องดื่มสมุนไพรจำนวน 380 มล. มีน้ำตาลราว 40 กรัม หรือ 10 ช้อนชา จะต้องใช้เวลาเผาผลาญด้วยการเดินขั้นต่ำ 22 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือวิ่งใส่ขั้นต่ำ 16 นาที

กาแฟสดหรือชาชงแก้วขนาดกึ่งกลาง มีน้ำตาลโดยประมาณ 9-10 ช้อนชา จำเป็นต้องใช้เวลาเผาผลาญด้วยการเดินอย่างต่ำ 20-22 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือวิ่งใส่ขั้นต่ำ 14-16 นาที

ฮวากู่ ภูเก็ต บุฟเฟต์ติ่มซำ และอาหารจีนจุกๆ กว่า 100 เมนู เริ่มต้นแค่ 499 บาท!

Previous post “แม่ชม” จัดให้ “สายฟ้า-พายุ” ถ่ายรูปกับหัวหน้าแก๊งทรงอย่างแบด
เศรษฐกิจ Next post สตช. จับมือภาคเอกชนสร้าง “วัคซีนไซเบอร์” รู้ทันกลโกง ต้านภัยออนไลน์